“ในมุมมองของเรา ‘อากาศสะอาด’ คือการได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ หายใจได้สะดวก มีพื้นที่สีเขียวเยอะๆ มองท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีอะไรขุ่นๆ หมองๆ หายใจได้เต็มปอด เดินบนท้องถนนก็สามารถหายใจได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าเดินบนทางเท้าแล้วกลัวว่าต้องเจอฝุ่นควันเยอะ อันนี้คืออากาศในอุดมคติของเรา
.
“ทุกวันนี้อากาศในเมือง ก็อาจมีบางพื้นที่ที่มีอากาศปลอดโปร่งแบบนั้นเหมือนกัน เช่น ถ้าเราไปอยู่ตามสวนเบญจกิติ สวนรถไฟ และสวนสาธารณะอีกหลายๆ ที่ ก็เป็นโซนที่เรารู้สึกว่าน่าอยู่ น่าเดิน แต่ถ้าเป็นโซนเมืองมากๆ ก็อาจยังไม่ใกล้เคียงคำว่าอากาศสะอาดมากนัก ซึ่งแน่นอนว่าก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม หรือควันพิษจากรถยนต์ ซึ่งเราคิดว่าถ้าบ้านเมืองเราช่วยกันพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้น เข้าถึงทุกคน ก็น่าจะทำให้ช่วยลดการใช้รถยนต์ไปได้เยอะเลย แล้วก็จะช่วยในเรื่องของอากาศได้อีกด้วย
.
“และในฐานะคนคนหนึ่ง เราก็สามารถมีส่วนช่วยให้อากาศสะอาด หรือช่วยแบ่งเบาภาระของสังคมใหญ่ได้เหมือนกัน เช่น อย่างแรก เราอาจจะสร้างพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ของเราเอง ถ้าช่วยกันทำคนละนิดคนละหน่อย ก็เป็นเหมือนต่อจุดเล็กๆ จนเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่ได้
.
“อย่างที่สอง ถ้าเราสามารถหลีกเหลี่ยงการเดินทางด้วยรถยนต์ เป็นต้นว่า มีการวางแผนการเดินทางว่าวันนี้เราต้องออกไปไหนบ้าง แล้วแพลนการเดินทางที่จะช่วยให้เราเดินทางได้แบบไม่สิ้นเปลื้องเชื้อเพลิง หรือตอนเช้าใช้ขนส่งสาธารณะ ตอนเย็นลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวคนเดียว ด้วยวิธี Car pool หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน รอไปกับเพื่อน แต่ก็เป็นคนที่สนิทนิดหนึ่ง ตรงนี้ก็จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่อากาศได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คนตัวเล็กๆ พอจะช่วยได้
.
“ส่วนภาพใหญ่ๆ ส่วนตัวคิดว่า ภาครัฐและภาคเอกชนหรือหน่วยงานไหน ถ้าช่วยกันซัพพอร์ตเรื่องนี้ด้วยกัน ก็จะสามารถเปลี่ยนสังคมได้กว้างขึ้นเยอะเลย หรือสมมุติองค์กรที่ทำโรงงานสีเขียว ลดการสร้างมลภาวะทางอากาศ ลดการใช้ทรัพยากร อันนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แล้วถ้าแบรนด์สื่อสารออกมาว่าฉันทำนะ ผู้บริโภคก็อยากสนับสนุนอยู่แล้ว คือเรามองว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากสนับสนุนเรื่องสีเขียวในภาพใหญ่ ถ้าทุกคนร่วมกันเปลี่ยนแปลง ทุกคนก็จะเปลี่ยนไปด้วยกัน”
.
พีช – ปณิชา เมธาวิชิตชัย นักร้อง The 38 Years Ago