รู้หรือไม่ว่า วัสดุที่ประกอบเป็นรถยนต์ทั้งคันนั้น เราสามารถนำไปรีไซเคิลได้มากถึง 95%
การคมนาคมเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการก่อมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลและรถเก่า ยิ่งเป็นรถยนต์เชื้อเพลิงดีเซลที่เก่าด้วยแล้ว นับเป็นมหันตภัยร้ายทำลายปอดเลยทีเดียว การเข้ามาแทนที่ของรถพลังงานไฟฟ้าในขณะนี้ ที่มีความได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยี สมรรถนะ ความปลอดภัย อาจเป็นจังหวะที่ดีในการตัดสินใจซื้อรถใหม่
…แล้วรถคันเก่าเราจะเอาไปไว้ที่ไหน?
จากสถิติประเทศไทยมีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ในทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 5 ล้านคัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคันภายใน 20 ปี นั่นจึงอาจเป็นระเบิดเวลาที่รอใครมาปลดชนวนอยู่ก็ได้ นโยบายนำรถเก่ามารีไซเคิลจึงถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อต้นเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านพ้นมานี่เอง
แต่การรีไซเคิลรถยนต์เก่านั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงต้องทำอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้มีความปลอดภัย ถ้ามีใครมองเห็นช่องทางนี้ก็จะช่วยสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นกระบวนการจัดการที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อุตสาหกรรมรีไซเคิลรถยนต์นั้น เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอุตสาหกรรมหนึ่งเลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะความยากและซับซ้อนในการคัดแยกวัสดุ ที่ต้องถูกบดถูกย่อยออกจากกัน เครื่องจักรกลที่ใช้ในการทำหน้าที่นี้จึงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ราคาสูง และล้ำสมัยพอสมควร แต่ก็ยอมรับได้เมื่อเทียบกับมาตรฐานคุณภาพที่ดีและระดับความปลอดภัยที่สูง
ก่อนจะเอารถเก่ามารีไซเคิลนั้น ต้องนำรถเข้าสู่กระบวนการถอดรื้อเป็นขั้นตอนแรก เพื่อแยกเอาชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ดีไปใช้ใหม่อีกครั้ง (reuse) เป็นอะไหล่ยนต์มือสอง อีกทั้งยังต้องจัดการกับสารเคมีและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นพิษให้ถูกวิธีตามมาตรฐานความปลอดภัยเสียก่อน อาทิ แบตเตอรี่ ถุงลมนิรภัย น้ำมัน และน้ำมันเครื่อง
ชิ้นส่วนพวกนี้จะถูกแยกออกไปกำจัด แยกส่วนรีไซเคิล อย่างถูกต้องตามหลักสากล ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากคัดแยกออกมาไม่ดี ไม่ถูกต้อง สารพิษต่างๆ จะแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อมซึ่งมีความอันตรายเป็นอย่างมาก หลักจากถอดรื้อเสร็จเรียบร้อย ก็จะนำซากรถไปบีบอัดเป็นก้อน แล้วส่งไปบดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ต่อไป
รู้หรือไม่ว่า รถแทบทั้งคันสามารถนำไปรีไซเคิลได้ รถเก่าหนึ่งคันจะมีเพียงแค่ 5% จากน้ำหนักเท่านั้นที่ถูกขนไปทิ้งที่บ่อขยะ อีกทั้งยังสามารถลดการใช้พลังงานได้มากอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
ผลจากการวิจัยพบว่า การรีไซเคิลเหล็กกล้าเพื่อนำไปใช้ใหม่นั้นสามารถลดการปล่อยมลพิษทางอากาศได้ถึง 86% และมลพิษทางน้ำได้ 76% เมื่อเทียบกับการผลิตขึ้นมาใหม่ และการรีไซเคิลสามารถลดการขุดเจาะของเหมืองเหล็กที่มักจะปล่อยสารพิษ โลหะหนักต่างๆ ที่จะไหลลงสู่แหล่งน้ำและฟุ้งกระจายไปบนอากาศ
ซึ่งโลหะรีไซเคิลนั้นใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าการผลิตใหม่มากถึง 74% นั่นทำให้เราสามารถประหยัดเชื้อเพลิงพลังงานน้ำมันได้ประมาณ 85 ล้านบาร์เรลต่อปีเลยทีเดียว และยังเป็นการขุดเอาเหล็ก 11 ล้านตันและโลหะนอกกลุ่มเหล็กอีก 8 แสนตันออกจากบ่อขยะให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
โดยเฉลี่ยแล้วรถยนต์ใหม่หนึ่งคัน จะใช้เหล็กกล้าจากการรีไซเคิลประมาณ 25% จากน้ำหนัก หากเราสามารถรีไซเคิลได้อย่างถูกต้องแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือวัสดุและผลิตภัณฑ์มากมาย โดยวัสดุและผลิตภัณฑ์หลักๆ (นอกเหนือจากเหล็กและเหล็กกล้าที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น) ที่จะได้จากการรีไซเคิลรถยนต์ก็ได้แก่
อะลูมิเนียม วัสดุที่ใช้สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย และมีแนวโน้มจะถูกใช้งานในรถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดน้ำหนักของตัวถังลง ทว่าในความอเนกประสงค์ของมันนั้น การถลุงเพื่อนำเอามาใช้งานจะใช้พลังงานสูงมากๆ แต่การรีไซเคิลอะลูมิเนียมกลับใช้พลังงานเพียงแค่ 5% เท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับการผลิตอะลูมิเนียมขึ้นมาใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการรีไซเคิลของอะลูมิเนียมยังสูงถึง 95% นั่นแปลว่าอะลูมิเนียมเกือบทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในรูปแบบอื่น เช่น กระป๋อง และวัสดุก่อสร้างต่างๆ
ยางรถยนต์ ก็เป็นวัสดุที่เหมาะกับการนำมารีไซเคิลมากกว่านำไปเผาให้เกิดควันดำ หลังจากผ่านกระบวนการรีไซเคิลที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว เราจะได้รองเท้าแตะสวยๆ ยางปูพื้นในรถยนต์ หรือ พื้นยางมะตอยนุ่มนิ่มสำหรับลู่วิ่งที่พบเห็นได้มากในสนามกีฬา บางที่ก็เอาไปทำเป็นแผ่นยางปูพื้นในปศุสัตว์ หรือโปรยคลุมหญ้าเพื่อลดแรงกระแทกและแรงเสียดทานในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และล้ำไปกว่านั้นคือ สามารถเอาไปกลั่นเป็นน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลได้อีกด้วย
ส่วนพลาสติกต่างๆ นั้นส่วนมากสามารถนำไปรีไซเคิลได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะส่วนกันชนที่เป็นพลาสติกชิ้นใหญ่และมีอัตราการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ถี่มาก พลาสติกรีไซเคิลสามารถนำไปทำเป็นกล่องเครื่องมือต่างๆ ถังขยะ กะละมัง บรรจุภัณฑ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์พลาสติกก็สามารถทำได้ นับว่าเป็นวัสดุที่เอาไปใช้งานได้หลากหลายที่สุดแล้วในชีวิตประจำวัน
จากตัวอย่างที่ยกขึ้นมาคร่าวๆ เราจะเห็นได้ถึงข้อดีที่สมควรนำรถเก่า หรือซากรถที่จอดเกะกะในโรงรถมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ใหม่ และยังประโยชย์ที่เราอาจมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป ว่าการนำรถเก่ามารีไซเคิลแบบนี้ได้ช่วยลดปริมาณขยะที่จะไหลเข้าสู่บ่อขยะ ลดมลพิษทางน้ำและทางอากาศจากการผลิตวัสดุเหล่านี้ขี้นมาใหม่ ลดการใช้พลังงานที่จะส่งผลทางอ้อมต่อปัญหามลพิษต่างๆ และที่สำคัญคือสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชากรนับพันนับหมื่นชีวิตได้อีกด้วย
ธุรกิจการรีไซเคิล คือธุรกิจสีเขียวที่เราทุกคนควรร่วมกันสนับสนุนให้เกิดขึ้นจริง เพื่อโลกที่สะอาดน่าอยู่ของทุกคน
ที่มาข้อมูล:
1. www.cashcarsbuyer.com
2. www.thebalancesmb.com
3. www.autoexpress.co.uk
4. www.youtube.com/watch?v=iJyQ3SmueE4