ปราการแรกที่ปกป้องเราจากอันตรายภายนอก ก็คือ ‘ผิวหนัง’ และนั่นทำให้อวัยวะดังกล่าวได้รับผลกระทบต่างๆ ก่อนใครเพื่อนเสมอ รวมไปถึงอันตรายจากเจ้าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ด้วย ว่าแต่ผลกระทบจากฝุ่นจิ๋วนี้ส่งผลเสียต่อผิวหนังอย่างไร และเราจะมีวิธีป้องกันผิวหนังของเราให้ปลอดภัยได้อย่างไรบ้างล่ะ
เพราะเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้ มีขนาดเล็กกว่ารูขุมขนเราถึง 20 เท่า มันจึงสามารถแทรกซึมสู่รูขุมขนได้ง่าย และแผลงฤทธิ์ต่อสุขภาพผิวของเราอย่างไม่น่าเชื่อ
มีข้อมูลผลงานวิจัยที่รายงานไว้ในวารสาร Toxicology reports เกี่ยวกับ PM2.5 ว่า ฝุ่นจิ๋วนี้ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลใต้ผิวหนังเกิดการสังเคราะห์มากขึ้น ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพผิว เพราะจะไปขัดขวางสภาวะสมดุลของคอเลสเตอรอล
ซึ่งคอเลสเตอรอลนี้สัมพันธ์กับการทำงานของเกราะป้องกันผิว ทั้งยังเชื่อมโยงกับการอักเสบของผิวหนัง กล่าวคือ ผู้ป่วยโรคผิวหนังภูมิแพ้ จะมีระดับคอเลสเตอรอลใต้ผิวหนังสูงกว่าคนทั่วไป
ดังนั้นการที่ PM2.5 ส่งผลให้สมดุลคอเรสเตอรอลใต้ผิวหนังผิดเพี้ยนไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพผิวเป็นแน่
และผลกระทบจาก PM2.5 ต่อผิวหนังนี้ ก็มีทั้งผลที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และผลในระยะยาวที่เราควรรู้ไว้ก่อนเพื่อป้องกันตัวเอง
ผลกระทบแบบเฉียบพลัน
อย่างแรกเลยคือ ฝุ่น PM2.5 จะตรงเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังกำพร้าของเราโดยตรง และทำลายโปรตีนฟิลแลกกริน (Filaggrin) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมสภาวะสมดุลของผิวหนัง ดังนั้นเมื่อโปรตีนดังกล่าวได้รับผลกระทบ ก็ทำให้สูญเสียการรักษาสมดุลของผิวหนังไป ก่อให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ ทำให้เซลล์ผิวหนังทำงานผิดปกติไป นั่นรวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ทั้งในด้านกลไกของการป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และการซ่อมแซมตัวเอง
เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าฝุ่นจิ๋วยังมีแขนขาที่ไปดักจับเอาเดอะแก๊งตัวร้ายในอากาศ ทั้งสารเคมีพิษ โลหะหนัก ให้มารวมหัวกันทำร้ายสุขภาพผิวของเราอีกด้วย จึงยิ่งก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนังมากขึ้น เกิดผื่นคัน และยิ่งใครที่มีภาวะโรคภูมแพ้ผิวหนังอยู่แล้ว เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นอักเสบ ผดผื่นคัน สะเก็ดเงิน สิว ผมร่วง ก็ยิ่งจะเกิดอาการเหล่านี้ได้ง่ายและรุนแรงมากขึ้น เห็นไหมว่า เจ้าฝุ่น PM2.5 มันร้ายกาจขนาดไหน
ชราก่อนวัย ในระยะยาว
ขนาดเจอแบบเฉียบพลันยังส่งผลกระทบต่อผิวเราไม่น้อย แล้วถ้าต้องเผชิญกับเจ้า PM2.5 บ่อยๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานาน ผิวหนังของผู้สัมผัสหรือจะทานทนได้ ท้ายที่สุดในระยะยาว จะส่งผลให้ผิวที่สัมผัสกับฝุ่นจิ๋วตัวร้ายนี้เป็นเวลานาน ต้องเกิดสภาวะ ผิวเสื่อมชราเร็วขึ้น
เพราะ PM2.5 นั้นก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่ส่งผลเสียต่อเซลล์ผิว ทำให้ภูมิต้านทางผิวลดลง นำไปสู่ภาวะผิวชราก่อนวัย รวมไปถึงจุดด่างดำบนผิวหนังอีกด้วยโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดผื่นแดงบนผิวหน้า และริ้วรอยบริเวณร่องแก้มมากขึ้นด้วย
ปกป้องผิวจากฝุ่นจิ๋วอย่างไรดี
แนวทางปกป้องผิวของคุณจากฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ที่ดีที่สุด ก็คือพาตัวเองออกมาจากสภาพแวดล้อมที่มี PM2.5 กระจายอยู่ในปริมาณสูง แต่ถ้าทำไม่ได้ด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่าง คุณก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะหาวิธีป้องกันผิวของคุณจากเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้ ยกตัวอย่างเช่น
- ก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดด เพื่อเคลือบผิวไม่ให้สัมผัสกับฝุ่น PM2.5 โดยตรง
- เลือกสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เพื่อลดการสัมผัสของ PM2.5 ต่อผิวโดยตรง
- เมื่อกลับถึงบ้าน ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบอาบน้ำชำระร่างกายทันที
- บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นประจำ
- แต่ถ้าคุณเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการแพ้ผิวหนังอยู่แล้ว (ผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง ผดผื่น ลมพิษ โรคสะเก็ดเงิน) หรือกลุ่มเสี่ยงที่มีความต้านทานของผิวน้อย (คนชรา และ เด็ก) ควรงดออกไปสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีปริมาณ PM2.5 มาก หากเลี่ยงไม่ได้ ควรออกไปสัมผัสในระยะเวลาที่สั้นที่สุด และรีบกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เร็วที่สุด
หากทำได้อย่างนี้ ก็พอที่จะปกป้องผิวของคุณให้ปลอดภัยจากเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้ได้บ้าง แต่คงจะดีกว่า ถ้าปัญหาถูกแก้ที่ต้นเหตุ นั่นคือการลดละเลิกกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่เป็นจุดตั้งต้นของการเกิด PM2.5 ซึ่งเราทุกคนและทุกภาคส่วนคงต้องร่วมมือร่วมใจก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปด้วยกัน เพื่ออนาคตทางสุขภาพของลูกหลานในวันข้างหน้า และเพื่อสุขภาพของโลกสีฟ้าใบนี้
ที่มาข้อมูล:
1. www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1368
2. www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2016703
3. www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2214750018305730