แม้ช่วงวิกฤติโรคระบาดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการบินจะได้รับผลกระทบหนัก มีแนวโน้มว่าจะไม่ฟื้นคืนกำไรในเร็ววัน ทว่ามีการประเมินกันว่า หลังทุกประเทศเปิดประตูรับนักท่องเที่ยว หลายร้อยสายการบินจะหันมาแข่งขันกันด้านราคาอย่างรุนแรง และทำให้เที่ยวบินราคาถูกเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
และสถานการณ์ดังกล่าวก็เป็นตัวเร้า ให้แผนการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการบินของรัฐบาลอังกฤษ ถูกจับตามองอีกครั้ง โดยแผนดังกล่าวมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Jet Zero-By 2050 ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบินให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 สอดคล้องกับเป้าหมายของ SDGs และนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ที่หนึ่งในนั้นดำเนินงานภายใต้กรอบ Green Fuels, Green Skies’ (GFGS) ซึ่งมุ่งลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ผ่านการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในการคมนาคมให้มากที่สุด
ทั้งนี้มีตัวเลขประเมินว่า สัดส่วนก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากอุตสาหกรรมการบินนั้น คิดเป็น 2.5 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกมวลรวม และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากอุตสาหกรรมการบินยังไม่รีบปรับตัวในเร็ววั
โดยกระบวนการหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาใช้ในการลดมลพิษจากบรรดาเครื่องบินก็คือ การสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกที่ผลิตขึ้นจากพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม นำมาเข้ากระบวนการแยกโมเลกุลน้ำ เพื่อให้ได้ไฮโดรเจนและออกซิเจนที่จำเป็นต่อการเผาไหม้
มากไปกว่านั้น ยังเป็นพลังงานที่ตอบโจทย์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่อย่างเครื่องบิน และมีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยชะลอการเสื่อมของเครื่องยนต์ซึ่งทำให้ต้นทุนการบินลดลงได้ในระยะยาว
ปัจจุบันแผนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมการบินของประเทศอังกฤษ กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้สำหรับเครื่องบินใบพัดขนาดเล็ก รวมถึงเครื่องบินขนส่งระยะใกล้ และยังมีสัญญาณที่ดีจากสายการบินพาณิชย์ ซึ่งมองเห็นโอกาสการพัฒนาทั้งมิติการอนุรักษ์พลังงาน การดูแลสิ่งแวดล้อม และการประหยัดต้นทุน
โดยล่าสุดสายการบินแห่งชาติของอังกฤษอย่าง British Airways ได้รับเอาแนวทางการใช้พลังงานสะอาดไปใช้เป็นแนวทางการพัฒนาหลังจากนี้ และคาดกันว่านี่อาจเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมการบิน ในการพัฒนาคุณภาพอากาศของประเทศอังกฤษเลยก็เป็นได้
ที่มาข้อมูล:
1. lordslibrary.parliament.uk/jet-zero-and-sustainable-aviation
2. www.greenairnews.com/?p=2991